ข่าวสารและกิจกรรม

ฝีมือปลายจวักของคนสมัยนี้สู้คนสมัยก่อนไม่ได้เลย บางคนก็อาจจะทำอาหารไม่เป็นเลยด้วยซ้ำไปหรือทำได้แต่บางครั้งก็รสชาติหวานเกินไป หรือบางครั้งก็อาจทำเค็มจนกินไม่ได้ หรือไม่ก็จืดจนไม่มีรสชาติอะไรเลย เมื่อเป็นแบบนี้จึงทำให้ผงปรุงรสกลายมาเป็นตัวช่วยให้อาหารมีความอร่อยกลมกล่อมมากขึ้น ผงปรุงรส คือผลิตภัณฑ์ปรุงแต่งรสอาหารที่ได้จากการนำเนื้อสัตว์ ซึ่งส่วนใหญ่จะนิยมใช้เนื้อไก่หรือเนื้อหมูมาหมักรวมกับเครื่องปรุงรสและเครื่องเทศต่าง ๆ เช่น น้ำตาล เกลือ กระเทียม พริกไทย โมโนโซเดียมกลูตาเมต ฯลฯ แล้วให้ความร้อนจนแห้งจึงบดเป็นผง ทำไมต้องใส่ผงปรุงรส ? ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้การทำอาหารแต่ละครั้งประสบความสำเร็จนั่นก็คือ ความอร่อย วัตถุดิบและเครื่องปรุงรสก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยตัดสินรสชาติของรสชาติอาหาร และหากจะพูดถึงเครื่องปรุงรสแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการทำอาหารให้อร่อยนั้นก็คือผงปรุงรสที่จะช่วยเพิ่มรสชาติอร่อยกลมกล่อมให้กับอาหาร อยากทำผงปรุงรสไว้ใช้เองวันนี้ Typa มีวิธีมาฝาก วัตถุดิบ 1.เนื้อหมูสันนอก 500 กรัม           2.หอมหัวใหญ่ 60 กรัม 3.กระเทียม 60 กรัม                    3.ผงรากผักชี 1 ช้อนโต๊ะ 5.เกลือ 2 ช้อนชา                       4.พริกไทย 2 ช้อนชา 7.น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำผงปรุงรส 1.นำเนื้อหมูสันนอกมาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง ทำแบบเดียวกันกับหอมหัวใหญ่และกระเทียม 2.นำหมูที่นำไปตากแดดมาปั่นให้ละเอียด…

ไม่ว่าอาหารคาว หรือ อาหารหวาน ล้วนแต่มีส่วนผสมของแป้งอยู่ในอาหาร แป้งในท้องตลาดมีมากมายหลายชนิดให้เลือกใช้ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่าแป้งชนิดไหนนำมาใช้ทำอาหารอะไรได้บ้าง 1. แป้งข้าวเจ้า ทำจากเมล็ดข้าวเจ้า มีลักษณะเป็นผงสีขาวเมื่อทำให้สุกจะมีลักษณะขุ่นร่วน ถ้าทิ้งให้เย็นจะอยู่ตัวเป็นก้อน ร่วน ไม่เหนียว เหมาะที่จะทำอาหารที่ต้องการความอยู่ตัว ร่วน ไม่เหนียวหนืด 2. แป้งข้าวเหนียว ทำมาจากเมล็ดข้าวเหนียวที่มีลักษณะเป็นผงสีขาว จับแล้วสากมือเล็กน้อย นำไปทำให้สุกจะมีลักษณะขุ่นข้น จับตัวเป็นก้อนค่อนข้างเหนียว เหมาะในการทำอาหารที่ต้องการความเหนียวเกาะตัว 3. แป้งมันสำปะหลัง ทำมาจากหัวมันสำปะหลัง มีลักษณะผิวสัมผัสของแป้งจะเนียน ลื่นมือ เมื่อทำให้สุกจะเหลวเหนียวหนืด เมื่อพักให้เย็นจะมีลักษณะเหนียว หนืด คงตัว นิยมนำมาผสมกับอาหารที่ต้องการความเหนียวหนืด มีสีใส และดูขึ้นเงา 4. แป้งข้าวโพด สกัดมาจากเมล็ดข้าวโพด มีลักษณะเป็นผงสีขาวเหลืองนวล ผิวสัมผัสของแป้งเนียน ลื่นมือ เมื่อทำให้สุกจะมีลักษณะข้น และใส ไม่คืนตัวง่าย เมื่อเป็นตัวแป้งจะอยู่ตัวจับเป็นก้อนแข็ง ร่วน เป็นมันวาว 5.แป้งโมดิฟายด์ ผลิตจากแป้งมันสำปะหลังนำมาแปรสภาพให้มีคุณภาพแตกต่างไปจากเดิมเพื่อให้ประสิทธิภาพที่เหมาะกับผลิตภัณฑ์อาหารแต่ละประเภทนิยมใช้ในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์บดละเอียดแปรรูป แป้งโมดิฟายด์เป็นส่วนผสมเพื่อสร้างเนื้อสัมผัส ที่เหนียวนุ่มเหมือนเนื้อจริง และทนต่อการแช่แข็งได้หลายรอบ โดยที่เนื้อสัมผัสไม่เกิดความเสียหาย เช่น…

ราดหน้า เมนูอาหารจานเดียวที่คนไทยคุ้นเคย เพราะมีรสชาติที่กลมกล่อม คู่กับเส้นร้อนๆ แล้วอร่อยอย่างลงตัว แต่ก่อนถูกเรียกว่าก๋วยเตี๋ยวราดหน้า เพราะมีลักษณะคล้ายกับก๋วยเตี๋ยวชนิดหนึ่ง โดยจะมีการนำเส้นมาผัดกับน้ำมันและซีอิ๊วดำจนกระทั่งเส้นเริ่มหอมกรอบนิดๆ แล้วราดด้วยน้ำราดกระดูกหมูที่มีการผสมกับแป้งมันจนเกิดเป็นน้ำเหนียวข้น เป็นอาหารเส้นที่มีจุดกำเนิดมาจากชาวจีน เป็นสูตรอาหารที่ถูกพัฒนามาจากอาหารของจีนแต้จิ๋ว ในส่วนของเมนูสุดแสนที่จะอร่อยอย่างราดหน้านั้นมีรูปแบบต่าง ๆ ที่เข้ามาในไทยอย่างแพร่หลายและต่อมามีการปรับเป็นรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้รสชาติถูกปากคนไทยแต่คุณรู้หรือไม่ว่าพื้นฐานของการทำราดหน้าที่มาจากจีนนั้นมีที่มาจาก 3 แหล่งดังนี้ 1.ราดหน้าฮ่องกง น้ำราดหน้าไม่ใส่เต้าเจี้ยว แต่ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย อาจจะไม่กลมกล่อมเท่าแบบอื่นๆ แต่ก็ทำได้ง่ายๆ ใช้ส่วนผสมไม่เยอะ 2.ราดหน้ากวางตุ้ง น้ำราดหน้าใส่เต้าเจี้ยว กระเทียม ใช้ผักคะน้าเป็นหลัก เน้นผักที่กรอบ กับความหอมของกระเทียม 3.ราดหน้าแต้จิ๋ว น้ำราดสีเข้ม ใส่เต้าเจี้ยวเป็นเม็ด ไม่ใส่น้ำมันหอย และใส่คะน้าผัดไปกับน้ำราดด้วย เป็นการรวมระหว่าง ราดหน้าฮ่องกง และราดหน้ากวางตุ้ง อย่างครบเครื่อง เมนูราดหน้าทำได้ไม่ยาก เคล็ดลับทำราดหน้าให้อร่อย ต้องทำแบบนี้ น้ำต้องข้นใส ไม่คืนตัว ปัจจัยหลักมาจากแป้ง ที่ใช้เป็นส่วนผสมซึ่งปัจจุบันมีแป้งทำน้ำราดหน้าโดยเฉเพาะนั่นก็คือ แป้งโมดิฟายด์ แป้งโมดิฟายด์ MR101 AA (Modified Starch) ผลิตจากแป้งมันสำปะหลังนำมาแปรสภาพให้มีคุณภาพแตกต่างไปจากเดิม เพื่อให้ประสิทธิภาพที่เหมาะกับผลิตภัณฑ์อาหารแต่ละประเภท โดยเฉพาะอาหารที่ต้องการความเหนียว…

ถึงตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักอาหารแปรรูปสุดฮิตที่นำไปมิกซ์กับหลาย ๆ เมนูไม่ว่าจะเป็น ส้มตำ หรือ ยำ ทอด ลวก ก็คือ หมูยอ นั่นเอง หมูยอ เป็นอาหารจากประเทศเวียดนาม ซึ่งคำว่า ยอ นั้นมาจากคำว่า หย่อ ที่ย่อจาก หย่อหลัวะ ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่นิยมทานหมูยอที่ใช้เนื้อหมูล้วน ๆ โดยหมูยอเข้ามาในประเทศไทยผ่านจังหวัดที่มีชาวเวียดนามอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากอย่างเชียงใหม่ เชียงราย ขอนแก่น อุบลราชธานี อุดรธานี และหนองคายเป็นต้น สังเกตุได้จากของฝากขึ้นชื่อของจังหวัดเหล่านี้ ที่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นหมูยอ วิธีการทำและส่วนผสม ในส่วนของขั้นตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมากเพียงแค่เปิดซองจากชุดทดลองทำหมูยอของทาง Typa ก็จะพบกับคู่มือที่มีมาให้และในคู่มือนั้นก็จะบอกขั้นตอนและวิธีการทำตั้งแต่แรกเริ่มยันจบ เพียงเท่านี้เราก็ได้หมูยอที่ทำได้ง่ายไม่ต้องเตรียมวัตถุดิบเองอีกทั้งรสชาติถูกใจเราอย่างแน่นอน ตัวอย่างเมนูหมูยอยอดนิยมที่นำไปประกอบอาหาร 1.ยำหมูยอ เมนูสุดฮิตเอาใจสายคนชอบกินของแซ่บอย่างยำหมูยอ เมนูนี้สามารถใช้ส่วนผสมต่าง ๆ มาคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน เช่น ไหลบัว ขนมจีน ไข่เค็ม เป็นต้น เมนูจากหมูยอนี้เป็นเมนูที่ง่าย ๆ ใช้เวลาในการทำเพียงไม่กี่นาทีเพียงแค่เราเตรียมวัตถุดิบเสร็จจากนั้นปรุงน้ำยำให้ออกมาตามความชอบของเรา แค่นี้เราก็จะได้ยำหมูยอที่ถูกใจเราอย่างแน่นอน 2.ไข่เจียวหมูยอ นอกจากการนำหมูยอไปทำยำที่เขาว่ากันว่าง่ายแล้ว ยังมีอีกเมนูหนึ่งที่สามารถทำได้ง่ายยิ่งกว่าและไม่จำเป็นต้องเตรียมวัตถุดิบให้ยุ่งยากนั้นก็คือไข่เจียวหมูยอ ส่วนวิธีการทำก็อย่างที่ทุก ๆ คนรู้เพียงแค่นำไข่เจียวมาตีให้ขึ้นฟองจากนั้นใส่หมูยอและปรุงรสตามใจชอบและอย่างลืมที่จะตั้งไฟให้ร้อนก่อนนำไข่ใส่ลงในกระทะ…

ใคร ๆ ก็ชอบกินโกโก้เพราะเชื่อกันว่าการกินโกโก้อาจมีประโยชน์ในหลายด้าน เนื่องจากโกโก้ประกอบไปด้วยแคลอรีไขมัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ใยอาหาร และแร่ธาตุชนิดต่าง ๆ ที่จําเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ผงโกโก้มาจากเมล็ดของต้นคาเคาที่คั่วและบดจนกลายเป็นโกโก้แบบข้น ที่เรียกว่า Cocoa Liquor ซึ่งหากนําไปขึ้นรูป ก็จะได้ดาร์กช็อกโกแลตนั่นเอง แล้วถ้านําไปทําให้เป็นผง โดยไม่รีดไขมันออกเลย ก็จะกลายเป็นผงโกโก้กระบวนการส่วนใหญ่จะเริ่มจากการนําเมล็ดโกโก้มาคั่วด้วยความร้อน จากนั้นนํามาบดจนละเอียดกลายเป็นผงที่เรียกกันว่า ‘ผงโกโก้’ ในระหว่างการแปรรูป ผู้ผลิตบางรายอาจมีกระบวนการแปรรูปเฉพาะพิเศษของตนเอง ที่ช่วยให้ผงโกโก้มีรสชาติกลมกล่อมและหอมหวาน และเหมาะสําหรับนําไปทําเบเกอรี่ เช่น คุกกี้เค้ก หรือการทําเครื่องดื่ม เช่น นํ้าโกโก้ปั่น เป็นต้น ผงโกโก้ยังถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท 1. Natural Cocoa Powder คือผงโกโก้ธรรมชาติจะมีสีนํ้าตาลอ่อน มีกรดอ่อนๆ รสเปรี้ยวนิดๆ 2. Dutch Process Cocoa Powder คือ ผงโกโก้ที่มีกระบวนการนํากรดออก สีจะออกนํ้าตาลอมแดงค่ะ ให้รสชาติที่นุ่มนวลขึ้น กลมกล่อม ละลายในนํ้าได้ดีเป็นวัตถุดิบหลักในการนํามาทําเป็นเมนูของหวานอื่นๆ ได้มากมาย คุณประโยชน์ของผงโกโก้ (cocoa)…

ใคร ๆ ก็รู้ว่าเมืองไทยมี 3 ฤดู คือ ร้อน ร้อนมาก ร้อนมาก ๆ ๆ ๆ อากาศแบบนี้ถ้าได้ทานขนมหวานเย็นที่มาช่วยดับกระหายคลายร้อนก็คงจะดี และเมนูอันดับต้น ๆ ที่นึกถึงคงหนีไม่พ้น “เฉาก๊วย” เฉาก๊วย ขนมหวานสีดำเป็นที่รู้จักของคนไทยมากกว่า 100 ปีแล้ว แรกเริ่มมาจากคนจีนที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทยแล้วได้เอาเฉาก๊วยเข้ามาขายด้วย เดิมทีขายเป็นเฉาก๊วยนิ่มแบบดั้งเดิมจากประเทศจีนโดยจะขายคู่กับเต้าฮวย แต่เนื่องจากเมืองไทยมีอากาศร้อนจัด ไม่นานเฉาก๊วยจึงเป็นที่นิยมและเริ่มขยายวงกว้างเป็นที่รู้จักของคนไทย เฉาก๊วยทำจากอะไร ? เฉาก๊วย คือ ขนมที่มาจากหญ้า ในภาษาจีนคำว่า “เฉา” แปลว่า หญ้า ส่วนคำว่า “ก๊วย” แปลว่า ขนม ในภาษาอังกฤษก็คือ Grass Jelly นั่นเอง ซึ่งหญ้าที่นำมาทำเฉาก๊วยคือ พืชชนิดหนึ่งในตระกูลเดียวกับใบมิ้นต์ คนไทยจะเรียกว่า “หญ้าเฉาก๊วย” ของหวานสีดำ ๆ ที่เคี้ยวหนึบหนับ และมีรสหวานจากน้ำเชื่อม รวมถึงความเย็นฉ่ำจากน้ำแข็งที่ใส่ผสมลงไป ทำให้ “เฉาก๊วย” กลายเป็นหนึ่งในของหวานยอดฮิต แต่นอกจากความหวานเย็นที่กินแล้วสดชื่นขึ้นมาในทันใด…

ชานมไข่มุกเป็นเมนูเครื่องดื่มยอดฮิตที่ใครหลายคนติดอกติดใจจนต้องกินทุกวัน ด้วยรสชาติหอมหวานของชานมผสมกับไข่มุกหนึบหนับเคี้ยวเพลิน ทำให้หลายคนไม่อาจหักห้ามใจได้ ชาไข่มุก มีต้นกำเนิดจากประเทศไต้หวัน โดยมีร้านชาแห่งหนึ่งขายน้ำชาแต่ต้องการหาอะไรแปลกใหม่ลงไปในเครื่องดื่ม เพื่อเพิ่มรสชาติของความอร่อยให้มากขึ้นจึงได้นำแป้งมันสำปะหลังมาทำการปั้นเป็นก้อนกลม ๆ เล็ก ๆ ให้เหมือนกับขนมโมจิของคนญี่ปุ่น ซึ่งขนมโมจิของคนญี่ปุ่นนั้นมักจะนิยมไว้กินกับน้ำชา เพื่อเพิ่มอรรถรสในการกินให้มีความอร่อย หนึบหนับเคี้ยวเพลิน และที่มาของการทำลูกกลม ๆ เล็ก ๆ นี้เกิดขึ้นจากการนำมาปั้น และทำการต้มกับน้ำเชื่อม หรือน้ำผึ้งเพื่อให้มีรสชาติหอมหวานมัน มีความเหนียวหนึบของแป้ง โดยใช้เวลาเคี่ยวสักพักหนึ่งให้ลูกนั้นมีความแตกตัว และพองขึ้นเพียงเท่านี้ก็ทำให้ลูกกลม ๆ เหล่านี้มีความอร่อยและนี่ก็คือ ความเป็นมาของการทำ ไข่มุก นั่นเอง ถ้าซื้อกินตามร้านแล้วยังไม่ถูกใจก็ลองมา ทำไข่มุกกินเอง กันเถอะ รับรองว่าอร่อยและเหนียวนุ่มไม่แพ้ตามร้านอย่างแน่นอน แถมไม่มีสารกันบูดด้วย เพราะไข่มุกทั่วไปอาจมีวัตถุเจือปนอาหาร ครั้งหนึ่งเคยมีรายงานว่าชานมไข่มุกที่ผู้ผลิตบางรายนำเข้าไปยังอเมริกาได้ปนเปื้อนสารอันตรายที่ใช้ในการทำพลาสติกอย่าง DEHP ซึ่งผู้ผลิตรายดังกล่าวนำมาเป็นส่วนผสมในชานมไข่มุก เพื่อเพิ่มสีและรสสัมผัสแทนการใช้ น้ำมันปาล์มที่มีราคาแพงกว่า โดยมีงานวิจัยในสัตว์ทดลองที่พบว่า สารชนิดนี้อาจส่งผลให้เกิดภาวะมีบุตรยากและมีการเจริญเติบโตที่ผิดปกติได้ วิธีทำไข่มุกด้วยแป้งโมดิฟายด์ ส่วนผสม แป้งโมดิฟายด์ ½ ถ้วยตวง น้ำตาลทรายแดง 1/3 ถ้วยตวง น้ำร้อน 50 มิลลิลิตร ละลายน้ำตาลทรายแดงในน้ำร้อน คนให้น้ำตาลละลาย…

ก๋วยเตี๋ยวได้รับความนิยมเพราะทั้งอร่อย อิ่มท้อง กินง่าย และราคาเป็นมิตร เส้นก๋วยเตี๋ยวแบ่งได้หลัก ๆ ที่คนนิยมกินกันแพร่หลายมากที่สุดคือเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ทำจากแป้งข้าวเจ้า แบ่งตามขนาดออกเป็นเส้นใหญ่ เส้นเล็ก เส้นหมี่ และรวมไปถึงเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ทำมาจากแป้งสาลีหรือแป้งถั่วเขียวเช่น บะหมี่ วุ้นเส้น เส้นใหญ่ เป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวที่มีแป้งข้าวเจ้าเป็นส่วนผสมหลัก มีขนาดความกว้าง ประมาณ 1.5 เซนติเมตรขึ้นไป เป็นเส้นที่ต้องมีน้ำมันเคลือบเพื่อไม่ให้เส้นติดกัน และเป็นเมนูเส้นที่ให้พลังงานเยอะ กินได้เต็มปากเต็มคำ เมื่อลวกเสร็จแล้วเส้นจะนิ่ม ทานง่าย นิยมนำไปทำเมนู ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ เย็นตาโฟ ราดหน้า และผัดซีอิ๊ว เส้นเล็ก เป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวสีขาว ขนาดของเส้นจะเล็กกว่าเส้นใหญ่ 3-4 เท่าตัว เส้นจะมีความแบน มีส่วนประกอบหลักเป็นแป้งข้าวเจ้าเช่นเดียวกับเส้นใหญ่และเส้นหมี่ เส้นเล็กมักจะถูกวางขายในรูปแบบอบแห้ง เมื่อนำมาลวกจนสุกแล้วจะเหนียวนุ่ม มากกว่าเส้นชนิดอื่น นิยมนำมาทำเมนูก๋วยเตี๋ยวต่างๆ ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก และผัดไทย เส้นจันท์ เส้นหมี่ อีกหนึ่งเส้นก๋วยเตี๋ยวสีขาวที่มีขนาดเล็กที่สุด และให้พลังงานต่ำที่สุด ตัวเส้นจะมีลักษณะกลมตัวเส้นจะมีขนาดเล็กและยาวคล้ายวุ้นเส้นแต่ไม่มีความใส และส่วนประกอบหลักในการทำเส้นหมี่ก็จะเหมือนกันกับเส้นใหญ่และเส้นเล็กคือมีแป้งข้าวเจ้าเป็นส่วนประกอบนั้นเอง ตามท้องตลาดจะมีเส้นหมี่ขายทั้งแบบสด และแบบแห้ง โดยเส้นหมี่มีกลิ่นเฉพาะตัว จึงควรนำมาลวกก่อนนำไปปรุงอาหาร เมนูที่แนะนำคือ เส้นหมี่ผัดกระเฉด กระเพาะปลา…

“ขนมจีน” เป็นอาหารเส้นอีกประเภทหนึ่งที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน โดยทั่วไปแล้วเส้นขนมจีนทำมาจากแป้งข้าวเจ้า และมีสองชนิดด้วยกันคือ ขนมจีนแป้งสด ลักษณะเส้นจะขาวนุ่ม อุ้มน้ำ หอมกลิ่นแป้ง และขนมจีนแป้งหมัก เส้นจะเหนียว สีออกหม่น หอมอร่อยกว่า ขนมจีนแป้งหมักสามารถเก็บไว้ค้างคืนได้ ไม่บูดเสียง่าย เมื่อเทียบกับขนมจีนแป้งสด ขนมจีนแป้งสด จะใช้วิธีการผสมแป้ง เป็นเส้นขนมจีนที่นิยมทำทางภาคกลาง วิธีสังเกตุเส้นขนมจีนแป้งสด จะมีขนาดใหญ่กว่าขนมจีนแป้งหมัก เส้นจะมีสีขาว ตัวเส้นขนมจีนนุ่ม อุ้มน้ำมากกว่า จะมีความเหนียวน้อยกว่าแป้งหมัก วิธีการทำไม่ต้องหมักข้าวหลายวัน เส้นขนมจีนแป้งสดจะมีสีขาวน่ากิน การเลือกซื้อขนมจีนแป้งสด ควรเลือกซื้อขนมจีนที่พึ่งผลิตใหม่ ๆ เส้นขนมจีนจะจับวางเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ ดมดูแล้วจะไม่มีกลิ่นเหม็นแป้ง ไม่มีเมือก ขนมจีนแป้งสดจะเก็บได้นานกว่าเมื่อเทียบกับขนมจีนแป้งหมัก ขนมจีนแป้งหมัก เป็นเส้นขนมจีนที่นิยมทำทางภาคอีสาน วิธีสังเกตุเส้นจะมีสีคล้ำออกน้ำตาล กลิ่นหอม เหนียวนุ่มกว่าขนมจีนแป้งสด และสามารถเก็บไว้รับประทานได้นาน ไม่เสียง่าย เส้นขนมจีนแป้งหมักเป็นการทำเส้นแบบโบราณ ต้องหมักข้าวเป็นเวลาหลายวัน ต้องเลือกใช้ข้าวแข็งหรือข้าวหนัก เช่น ข้าวเล็บมือนาง ข้าวปั่นแก้ว ข้าวพลวง ข้าวยิ่งแข็งก็ยิ่งดี เพราะจะทำให้เส้นขนมจีนแป้งหมักเหนียวเป็นพิเศษ นอกจากนี้แหล่งน้ำจากธรรมชาติเป็นสิ่งสำคัญในการหมักข้าว จะต้องใช้น้ำจากคลองชลประทาน หรือน้ำบาดาลเท่านั้น ไม่ควรใช้น้ำประปา เพราะจะทำให้เส้นขนมจีนเละ ทำให้จับเส้นไม่ได้…